BACK TO EXPLORE

Upcycling พลาสติก ชุบชีวิตท้องทะเล

ทุกวันนี้ เราทำร้ายทะเลกันมามากเท่าไร?

Upcycling พลาสติก เติมดีไซน์ใส่แนวคิด เพื่อชุบชีวิตให้ท้องทะเล

ไม่ว่าจะฝั่งอันดามันหรืออ่าวไทย คงต้องยอมรับว่าประเทศไทยคู่ควรกับการเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ใฝ่ฝันถึงหาดทรายละเอียดสวย และน้ำทะเลสีฟ้าใสอย่างไม่มีอะไรให้ต้องกังขา แต่นอกจากบทบาทของการเป็น Dream Destination ที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศแล้ว หลายคนก็อาจหลงลืมไปว่าความสำคัญที่แท้จริงของท้องทะเลนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคุณค่าที่มนุษย์นำไปสวมให้ ทว่ามีความสำคัญในตัวเองอยู่แล้วอย่างยิ่งยวดในฐานะบ้านที่พักพิงของสัตว์น้ำน้อยใหญ่ ตลอดจนเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศที่สำคัญ แน่นอนว่า ยังเป็นแหล่งอาหารขนาดใหญ่ที่มนุษย์จะขาดไปไม่ได้อีกด้วย

ทว่าในช่วงหลายปีมานี้ดูเหมือนว่านอกจากการใช้ประโยชน์จากบ้านหลังนี้อย่างเต็มที่แล้ว เราต่างก็ละเลยที่จะดูแล เอาใจใส่ ทั้งยังพลั้งเผลอลงมือทำร้ายระบบนิเวศทางน้ำทั้งระบบด้วยการกระหน่ำทิ้งขยะ ไม่ว่าจะบนแนวชายฝั่งหรือลงทะเลโดยตรง ในปริมาณที่เรียกได้ว่าแสนน่าเศร้า

“ประเทศไทยทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก”

และที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือเมื่อจัดอันดับตัวการใหญ่ ที่เป็นต้นเหตุของปริมาณขยะมหาศาลในท้องทะเลเหล่านั้น ประเทศไทยได้มาแรงแซงหน้า ติดโผเข้าไปอยู่ลำดับที่ 5 ของโลกเป็นที่เรียบร้อย เป็นรองเพียงแค่ จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เท่านั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรซึ่งแตะเพียงหลัก 70 ล้านคน น้อยกว่าอีกหลายสิบประเทศทั่วโลกแล้ว เท่ากับว่าคนไทยแต่ละคน (แน่นอน ว่ารวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในไทยด้วย) ได้สร้างขยะในแต่ละวันขึ้นมาเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

“พลาสติก 1 ชิ้นต้องใช้เวลาในการย่อยสลาย 450 ปี”

ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นอาจไม่รู้เลยว่า ด้วยไลฟ์สไตล์การอุปโภค บริโภค แบบเอาง่าย เอาสบายเข้าว่า ได้ทิ้งภาระอันหนักหนาขนาดไหนไว้ให้ธรรมชาติต้องจัดการ อย่างก้นบุหรี่ที่ใช้เวลาสูบเพียงไม่กี่นาที แต่ธรรมชาติต้องใช้เวลาราว 1 – 5 ปีเพื่อย่อยสลาย คล้ายกันกับถ้วยกระดาษที่ใช้เวลาราว 5 ปีเช่นกัน ขณะที่กระป๋องน้ำอัดลมซึ่งใช้เวลาดื่มเพียงไม่กี่อึกก็หมดกระป๋อง ทันทีที่ภาชนะบรรจุถูกโยนทิ้งลงน้ำ มันต้องใช้เวลาถึง 200 ปีเพื่อกำจัดซากขยะให้หมดสิ้น แต่ที่เลวร้ายที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้นขยะตระกูลพลาสติก ที่ใช้เวลาย่อยสลายนานถึงสี่ศตวรรษครึ่ง (เอาเป็นว่าถ้าในสมัยอยุธยาตอนกลางมีพลาสติกใช้ ก็คงเพิ่งย่อยสลายพลาสติกเสร็จเอาป่านนี้)

“ในปัจจุบัน มีขยะที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในทะเลมากถึง 10 ล้านตัน”

แม้เมื่อเอาขนาดของส่วนที่เป็นผืนน้ำทั่วโลกมารวมกันแล้วจะได้พื้นที่มหาศาลแค่ไหน แต่ปริมาณขยะที่มากถึง 10 ล้านตัน หรือเทียบได้กับประมาณ 400,000 ตู้คอนเทนเนอร์นั้น ก็ยังเป็นปริมาณที่มากจนน่าใจหายอยู่ดี โดยขยะส่วนใหญ่ที่พบก็เรียกได้ว่าหนีไม่พ้นขยะจำพวกพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ขวดพลาสติก หลอดพลาสติก หรือของใช้ในชีวิตประจำวันที่ทำมาจากพลาสติกนั่นเอง ซึ่งเจ้าพลาสติกเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะย่อยสลายยาก ทิ้งภาระอันหนักหน่วงยาวนานนับสิบๆ ปีให้กับท้องทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอันตรายอันดับหนึ่งสำหรับนกและสัตว์ทะเลที่หลงผิดคิดว่าเป็นอาหารจนเผลอกลืนกินเข้าไป หรือโชคร้ายกว่านั้นถูกความแหลมคมของชิ้นส่วนทิ่มแทง ถูกความเหนียวทนทานของวัสดุพันรัด จนเป็นแผลใหญ่ บาดเจ็บสิ้นใจตายจนกลายเป็นข่าวน่าเศร้าให้เราได้เห็นทุกปีๆ

“Upcycling พลาสติก เทรนด์ใหม่แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน”

ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่าถ้าหากเรายังไม่ร่วมมือกันหยุดยั้งปัญหาขยะในท้องทะเลและในสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วันนี้ ปัญหาที่โลกของเราต้องเผชิญในวันข้างหน้าจะเลวร้ายขนาดไหน ทั้งนี้นอกจากการลด ละ เลิก reuse reduce recycle ร่วมด้วยช่วยกันหยุดการทิ้งขยะ ตลอดจนเพลามือในการใช้พลาสติกแล้ว เราก็ยังมีเทรนด์ใหม่ที่จะช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอีกรูปแบบมาให้รู้จักกันอีกด้วย โดยกระบวนการดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Upcycling’ หรือก็คือการนำขยะพลาสติก มาใส่ไอเดียดีๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กลายไปเป็นชิ้นงานศิลปะ ของใช้ หรือของตกแต่งต่างๆ โดยคัดเลือกจากพลาสติกที่สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าได้ 2 ประเภท คือ 1.พลาสติกราคาถูกที่มีสีขาวขุ่น เช่น ถุงที่ได้จากร้านสะดวกซื้อ และ 2.พลาสติกใสกันก๊าซได้ดี อย่างขวดน้ำดื่มขนาดต่างๆ ทั่วไปนั่นเอง

“Upcycling X'mas From Trash to Treasure แรงบันดาลใจในการชุบชีวิตพลาสติก”

ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในคอนเซปต์ของการ Upcycling หรืออยากมาหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าให้พลาสติกเพื่อชุบชีวิตให้ท้องทะเลล่ะก็ สามารถตรงดิ่งมาที่ Siam Discovery ได้เลย เพราะในตอนนี้ทางห้างสรรพสินค้าได้จับมือกับ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) สร้างไอเทมเด็ดๆ และโซนโดนๆ จากการ Upcycling พลาสติกจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ต้นคริสต์มาสจากขยะพลาสติกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่สวยงามดูมากมูลค่าด้วยการดีไซน์ แต่ยังรักษ์โลกยิ่งกว่าต้นคริสต์มาสต้นไหนๆ อีกด้วย, นิทรรศการเกี่ยวกับการ Upcycling พลาสติก ที่รวบรวมเอาขยะเหลือใช้มาแปรเปลี่ยนให้เป็นชิ้นงานน่าตื่นตะลึง, มุมสร้างสรรค์ผลงาน DIY จากขยะพลาสติก ที่งานนี้ทุกคนจะได้ลงมือเติมดีไซน์ใส่แนวคิด พลิกชีวิตขยะเหลือใช้ด้วยตัวเอง และสุดท้ายกับ Trash to Treasure Machine เครื่องมือสุดทันสมัยที่ตั้งคอยรับบริจาคขวดพลาสติก สำหรับนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าต่อไป

โดยงานนี้จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561 เท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมจดตารางไว้ให้ดีๆ แล้วพกพลาสติกเหลือใช้ ไปหาแรงบันดาลใจเพื่อชุบชีวิตให้ท้องทะเลกัน