BACK TO EXPLORE

“Mindhara” ความประทับใจในต้นข้าวเกิดเป็นสกินแคร์ธรรมชาติ 100%

แบรนด์ ‘มินดารา’ ช่วยฟื้นฟูผิวและผม แล้วยังดูแลเกษตรกรไทยด้วย



ถ้าได้มาเดินที่ Ecotopia ใน Siam Discovery เราจะได้เห็นไอเดียล้ำๆ ที่แม้แต่คนช็อปปิ้งเองยังรู้สึกเพลิดเพลินไปกับสตอรี่ของหลายๆ แบรนด์ Mindhara (มินดารา) ก็เป็นอีกแบรนด์ที่เราสะดุดตากับแพคเกจจิ้งสีสันคัลเลอร์ฟูล รู้สึกมีชีวิตชีวาและอยากรู้ว่าผลิตภัณฑ์ขายดีอย่างทรีทเมนต์แก้ผมร่วงที่ทำมาจากข้าวไทยจะมีแรงบันดาลใจมากจากไหน เราได้คุยแบบลงลึกกับคุณเอ็ม – พริษฐ์ดล อัครสิทธิหิรัญ เจ้าของแบรนด์ผู้มีเรื่องราวน่าสนใจตั้งแต่วันแรกที่ทำให้เขาตกหลุมรักในข้าวไทย



บวชเป็นพระทำให้เจอชาวบ้านและทุ่งนา
แค่ประโยคแรกที่คุณเอ็มพูดเปิดขึ้นมาก็ทำเอาเราต้องตกใจว่าเป็นที่มาของแบรนด์ที่มีจิตวิญญาณมาก “ผมเคยบวชที่วัดเทพหิรัญ จ.ชัยนาท อยู่ปีครึ่ง วัดที่บวชอยู่กลางทุ่งนา เราเคยใช้ชีวิตในเมือง พออยู่ต่างจังหวัด ต้องเดินไปบิณฑบาตผ่านทุ่งนาทุกวันก็เกิดความประทับใจในต้นข้าว ผู้คนที่ใส่บาตรเป็นชาวนาที่มีความจริงใจมาก คุยกันแบบใสๆ พอสึกแล้วก็คิดว่าเราจะทำอะไร ก่อนหน้านั้นเคยทำงานแนวโทรคมนาคม แต่ตอนนั้นอยากทำอะไรช่วยชาวนา อยากเอาข้าวมาแปรรูป อยากให้ชาวนามีเงินเลยตัดสินใจเอาข้าวมาแปรรูป”



เขาไม่ทิ้งความฝันและความรักในนาข้าว เป็นจังหวะที่ได้เจอคนที่สามารถให้คำแนะนำได้ทำให้ได้ข้อมูลในเชิงลึกลงไปอีก “ผมได้บอกความตั้งใจนี้กับพี่สาวของเพื่อนที่ได้เจอหลังสึก พี่เขาทำอยู่ ธกส. แล้วเจออาจารย์ท่านหนึ่งมาบรรยายคือ รศ. ดร. ราณี สุรกาญจน์กุล อาจารย์เป็นนักวิจัยประจำภาคเทคโนโลยีอาหาร ม.รามคำแหง เลยนัดให้ผมกับอาจารย์ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกัน เราบอกสิ่งที่อยากทำ ส่วนอาจารย์ศึกษาเรื่องสารสกัดข้าวที่เอามาทำอะไรมากกว่าการกิน  เพราะข้าวไทยตอนนื้ที่ส่งออกต้องสู้กับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ แต่อาจารย์อยากเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทย นำข้าวหอมมะลิในทุ่งกุลาร้องไห้มาบดที่อุณหภูมิ 60 องศา แล้วใช้ยีสต์สายพันธุ์ที่คัดเลือกแล้วมาย่อยข้าว จากนั้นทิ้งไว้ 20 กว่าวันออกมาเป็นสารสกัดสำคัญที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และบำรุงให้หน้าดูกระจ่างใส”



“ตอนแรกยังไม่รู้คุณประโยชน์ของสารที่อยู่ในข้าวนี้ แต่อาจารย์นึกถึงโบราณที่เอาน้ำซาวข้าวมาสระผม อาจารย์หยอดน้ำที่มีสารนี้ลงบนหนังศีรษะ พอเอามาสแกนก็เห็นว่าเซลล์จากในข้าวนี้เข้าไปเกาะที่รากผมเหมือนกระดุมทำให้ช่วยยับยั้งผมหลุดร่วง หยดเป็นประจำ 20 กว่าวันเริ่มมีผมอ่อนๆ งอกออกมา ผมเลยนำมาผสมกับหมากเม่า ขิง น้ำมันมะกรูดและงาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก”


แบรนดิ้งคือสิ่งที่สำคัญมาก



คุณเอ็มบอกว่า “ทำอยู่ 3 ปีไม่ประสบความสำเร็จ ตอนนั้นคิดว่าของดี คนน่าจะซื้อ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ผมเลยหยุดขายทุกอย่างใช้เวลา 8 เดือนมาทำรีเสิร์ชแบบ deep interview กับคน 40 คนว่าเราต้องทำการตลาดกับกลุ่มไหนก็ค้นพบว่าคนจะซื้อของเพราะแบรนดิ้ง และคนแบ่งไปตามความชอบไม่ใช่แค่เพศ การศึกษาหรืออายุอีกแล้ว อย่างอายุ 19 ก็อาจจะชอบชีวิตสโลว์ไลฟ์เหมือนกับคนอายุ 60 ได้ หรือไม่ว่าจะเด็กจะผู้ใหญ่ก็เป็นคนสไตล์เพอร์เฟ็กชันนิสต์ได้เช่นกัน และคำตอบที่เคยขายแล้วไม่เวิร์ค บางคนดูแล้วเดินออก  ทุกคนตอบว่าเพราะการจัดดิสเพลย์ที่ต้องดูดี มีรสนิยม กับแพคเกจจิ้ง ซึ่งสุดท้ายมากกว่า 90% ของคนที่ตอบไปในทิศทางเดียวกันคือผู้หญิงแคร์เรื่องผมร่วงมากกว่าผู้ชาย เหมือนถ้าร่วงมากกว่าเดิม 5-6 เส้นก็ต้องดูแลแล้ว แต่ผู้ชายแทบไม่สนใจเลย อีกอย่างคือผู้หญิงเชื่อว่าถ้าตัวเองดูดีทำให้มีโอกาสในชีวิต หน้าที่การงานจะดีขึ้น ประสบความเร็จในชีวิตครอบครัวที่ดี ผมเริ่มรีแบรนด์ใหม่ ผมทำทุกอย่างแบบเต็มที่ เอาข้อมูลที่เรามีให้ดีไซเนอร์ อยากให้พืชสมุนไพรดูอินเตอร์ เลยนำส่วนผสมออกมาแทนด้วยสีต่างๆ ข้าวแทนด้วยสีทอง หมากเม่าคือสีส้ม อัญชัญคือสีม่วง ใบบัวบกเป็นสีเขียว แล้วใช้เทคนิคสีน้ำเป็นธีม”



Success Has Come!
“หลังจากนำออกตลาดใหม่ ผลตอบรับพลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือ จากเวลาไปออกงานต้องยืนอธิบายอยู่เป็นชั่วโมง เป็นแค่เดินผ่านเห็นผลิตภัณฑ์ก็ต้องแวะเข้ามาดู เพราะแพคเกจจิ้งที่เป็นสีคัลเลอร์ฟูล เราก็ทำออกมาจากกลุ่มรีเสิร์ชที่พอบอกว่าเห็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสีสันแล้วอยากเอามาใช้กับตัว ส่วนชื่อ Mindhara อ่านว่า “มินดารา” คือตอนนั้นปี 2554 ที่บ้านน้ำท่วม ผมเลยย้ายไปอยู่เชียงใหม่ แล้วนึกถึงคำที่พูดถึงเจ้าดารารัศมี เราไม่เคยเจอแต่คิดถึงว่าต้องเป็นผู้หญิงสูงศักดิ์ ต้องสวยแน่ๆ สิ่งที่ไม่คาดคิดอีกอย่างคือผลิตภัณฑ์ที่เป็น Best Seller ของมินดาราอย่าง Mindhara Organic Rice Series Natural Hair Loss Treatment เป็นตัวที่ออกมาครั้งแรกผมเกือบตัดทิ้งแล้ว เพราะกลิ่นที่ค่อนข้างแรง แต่พอเราเอาปัญหานี้ไปบอกอาจารย์ ได้ดัดแปลงจากใช้น้ำเปล่ามาเป็นน้ำต้มใบเตยนำมาผสมกับข้าวเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใส่น้ำหอม”



เราอยากให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้เข้าใจผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติจริงๆ และเนื้อผลิตภัณฑ์ของ Mindhara มาจากธรรมชาติแทบทุกอย่าง ดังนั้นสีและความข้นอาจจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในตอนนั้น เช่น สีอัญชันอาจจะเข้มหรืออ่อนต่างกันเล็กน้อย หรือเจลาตินจากธรรมชาติอาจจะต่างไปบ้างในแต่ละขวด แต่มาตรฐานและคุณสมบัติยังได้รับดีเท่าเดิม




ทำไมต้องเป็นข้าวจากทุ่งกุลาร้องไห้?
คุณเอ็มเล่าว่าอาจารย์ราณีพบว่าดินที่ทุ่งกุลาร้องไห้มีชั้นเกลือที่หนาเป็นเมตร รากของข้าวที่หยั่งลึกลงไปในดินจะไม่เจอสารอาหาร มีแต่ความเค็ม แต่ข้าวก็รู้วิธีที่จะมีชีวิตให้งอกงามยังไง เลยเปล่งกลิ่นหอม สร้างคุณค่าในด้านอื่นแทน ข้าวหอมมะลิในทุ่งกุลาร้องไห้จึงอุดมไปด้วยสารแอนตี้อ็อกซิแดนท์ และได้รับการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์และได้จดทะเบียนรับรองจากสหภาพยุโรปว่าเป็นสินค้า GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ว่าข้าวหอมมะลิตรงนี้จะไม่มีใครเหมือน ถ้าใครได้เคยชิมข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้จะต้องบอกว่าเป็นข้าวที่นุ่มเหนียวนิดๆ เป็นข้าวไทยที่ดีมาก

กล้าพูดได้ว่าส่วนผสมทุกอย่างมาจากธรรมชาติ 100%
“ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ลุคของผมตอนนั้นก็ใส่เสื้อผ้าไม่รีด รองเท้าบูท กางเกงทหาร ไม่ได้ดูแลตัวเองเลย อาจารย์ก็คิดว่าจะไหวเหรอ แต่ระยะทางที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ตรงกับความตั้งใจของอาจารย์ที่อยากให้คนใช้ของที่ไม่มีสารเคมี” โดยที่จุดเด่นของผลิตภัณฑ์มินดารา ใช้สารสกัดจากธรรมชาติมาแทนสารเคมีได้ทั้งหมด เช่น
- ไม่มีสารกันเสีย เพราะสกัดสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียจากใบสะระแหน่ทดแทน
- ไม่ใช้เบสเนื้อครีมที่เป็นสารเคมี แต่ใช้เปปทีนจากพืชซึ่งนำมาทำเจลาตินในอาหาร
- ใช้เทคนิคหมักแบบไวน์เพื่อรักษาคุณค่าของเซลล์ข้าวและพืชสมุนไพร
- ใช้วิธีพาสเจอไรซ์เหมือนกับอาหารทั้งเนื้อผลิตภัณฑ์และแพคเกจจิ้ง


อีกผลิตภัณฑ์ที่คุณเอ็มบอกว่าถ้าใครได้ลอง จะต้องเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนก็คือ Mindhara Organic Facial Mask ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เครื่องสำอางและสารเคมีที่ตกค้างบนผิวหน้า กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนใบหน้า ช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื่นที่เราได้ลองเนื้อก็บอกได้เลยว่าธรรมชาติมากๆ ผิวก็นุ่มลื่นจริงๆ



ตรงคอนเซปต์ความเป็นอีโคเพราะกล่องก็นำกลับมาใช้ใหม่ได้!
กล่องต้องใช้ประโยชน์ได้ เป็นกล่องแม็กเน็ตที่สามารถเอามาใส่สร้อย แหวน เครื่องประดับ ได้แบบที่ไม่ดูฮาร์ดเซลล์ในแบรนด์มากเกินไป



และจากความตั้งใจของคุณเอ็มทั้งหมดใส่ความจริงใจ หัวใจที่อยากช่วยชาวนา ยกระดับข้าวของไทยทำให้ Mindhara เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับคัดเลือกมาวางจำหน่ายที่ Ecotopia ชั้น 4 ศูนย์การค้า Siam Discovery ถือว่าเป็นการวางขายที่แรก นอกจากช่องทางการซื้อออนไลน์ของทางแบรนด์เอง

ถึงเวลาที่เราจะต้องสนับสนุนคนไทยที่ไม่น่าเชื่อว่าแค่ซื้อผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้น แต่ถือว่าเรากำลังได้ช่วยเหลือไปถึงชาวนา ฟื้นระบบเศรษฐกิจของไทยต่อไป ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจและสนับสนุนแบรนด์ไทยให้พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง

YOU MAY ALSO LIKE