MEET THE MAKER
Notep One of the MAKERS
“เราอยากจะกระตุ้นการตระหนักรู้เรื่อง Conscious Consumption ให้คนเข้าใจและเลือกใช้สิ่งที่ดีต่อตัวเอง ดีต่อชุมชนและดีต่อสิ่งแวดล้อม good for you, good for community, and good for the environment”
จุดริเริ่มของ Notep Store:
“มันเริ่มจากที่เราทำเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ส่วนมากก็จะเป็นแคมเปญ แต่เราก็ยังรู้สึกว่าเมืองไทยในปัจจุบันมันมีปัญหาเรื่องการบริโภคสิ่งของมากขึ้นเรื่อยๆ fast fashion ต่างๆ หรือกระทั่งพวกเครื่องสำอางค์ ซึ่งมันก็เปลืองทั้ง packaging เปลืองทั้งการขนส่งและก็เปลืองทั้งวัสดุ อย่างสมมุติว่า ตัวโปรดักส์เวลาคนใช้มันไม่ last-long และมันก็เป็นตัววัสดุที่ไม่ได้ดีต่อสิ่งแวดล้อมนัก ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้อผ้าที่มันสามารถก่อเกิด micro plastic ได้ หรือกระทั่งตัวสารเคมีที่อยู่ในโปรดักส์ พอเอาไปใช้ในน้ำหรือกับสิ่งแวดล้อมเนี่ยมันก็ไปเป็นพิษต่อ เราเห็นช่องตรงนี้ที่เรารู้สึกว่าในฐานะที่เราก็เป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ที่คนให้ความสนใจ เราก็ควรที่จะใช้ power ที่เรามีตรงนี้ขับเคลื่อนให้มันไปในทิศทางที่ถูกต้องได้”
นิยาม คอนเซปต์ หรือสิ่งที่ Notep Store อยากจะสื่อสารออกไป:
“Notep Store ตั้งขึ้นมาเพราะว่าเราอยากจะ raise awareness เรื่อง conscious consumption ให้คนเข้าใจและเลือกใช้สิ่งที่ดีต่อตัวเอง ดีต่อชุมชนและดีต่อสิ่งแวดล้อม (good for you, good for community, and good for the environment) เรามีคำที่ define แบรนด์ ก็คือ “Based from our love for the sea and forest” – มันทำมาจากความรักที่เรามีต่อท้องทะเลและป่า ทุกโปรดักส์เราจะทำให้มัน carbon impact น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง packaging ไม่ว่าจะเป็น ingredient ที่ใช้และวัสดุที่ใช้”
Notep Store มีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง:
“ตอนนี้โปรดักส์ทั้งหมดมีน้ำมัน มีเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับ ซึ่งทุกอย่างเนี่ยจะเป็นอัพไซเคิลและรีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติหมดเลย เราจะไม่มีการสร้างวัสดุใหม่ แต่ว่าเราจะใช้วัสดุที่มันเหลือใช้แล้วมาก่อให้เกิดประโยชน์ เหมือนไม่ได้สร้างขยะใหม่แต่เราลดขยะจากการใช้ดีไซน์เป็นตัวแก้ปัญหา ทำให้ขยะออกมาสวยใหม่ได้ มีคุณค่าใหม่ได้และที่สำคัญก็คือว่าเราทำงานกับชุมชน เพราะฉะนั้นทุกๆอย่างเราอยากให้มัน ethical ที่สุด อยากสนับสนุนชุมชนไปด้วยลดขยะไปด้วย ทำให้มันดีที่สุดจริงๆไม่ใช่แค่แบบว่าต้องการทำโปรดักส์ขึ้นมาเพื่อว่าขายหากำไร”
คิดอย่างไรกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนในยุคปัจจุบันและดูเหมือนจะกลายมาเป็นกระแสหลักที่ทำให้คนเริ่มสนใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น:
“จริงๆ นทว่าสิ่งเหล่าเนี่ย มันไม่ควรเป็นแค่เทรนด์ แต่มันควรเป็นปัจจัยที่ทุกคนควรให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราไม่ให้ความสนใจเราก็จะไม่โลกมีให้อยู่อย่างสงบเหมือนในทุกวันนี้ได้ คือทุกวันนี้มันก็แย่ขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนมากๆ แล้ว เมื่อก่อนเราไม่เห็นมีปัญหา PM 2.5 ไม่เห็นมีปัญหาแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุเข้าหนักอะไรขนาดนี้ เราเห็นเลยทั่วโลกมันมีอะไรเกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นการบ่งบอกจากธรรมชาติว่า เห้ย มันเริ่มไม่ไหวแล้วน้า ถ้าเกิดว่าเรายังจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างงี้ มัวแต่จะ take take take แล้วก็ไม่มีการ give อะไรกลับไปให้กับสิ่งแวดล้อมเลย มันก็ไม่ได้ เราก็จะอยู่ไม่ได้เอง เดี๋ยววันนึงโลกมันก็จะทำให้เราอยู่ไม่ได้ แล้วเราเองเนี่ยแหละที่จะต้องไป เพราะว่าเราก็เห็นอยู่แล้วว่าโลกเนี่ยมันมี cycle มาตลอด สัตว์ต่างๆที่อยู่ในโลกใบนี้ก็สูญพันธุ์ไปตั้งหลายต่อหลายมาแล้ว เราก็เห็นแล้วว่าโลกก็ยังอยู่ได้ เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วแคมเปญที่บอกว่า save the world, save the earth จริงๆ ไม่ใช่หรอก นทว่า save humanity มากกว่า save มนุษย์เราเพราะถ้ามนุษย์เราไม่ทำอะไรเพื่อโลก เราก็จะอยู่ไม่ได้”
ทิศทางในวันข้างหน้าหรือเป้าหมายในอนาคตของ Notep Store เป็นอย่างไร:
“นทก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ ลดขยะและก็เอาขยะมาทำเป็นโปรเจกต์ใหม่ๆให้มันสนุกสนานได้ คือนทเชื่อตลอดว่าเวลาที่เราสื่อสารเรื่อง topic ที่มันยากๆ อย่างสิ่งแวดล้อม มันง่ายที่จะได้ใจคนมากกว่าถ้าเราทำให้มันสนุก ทำให้มันน่าค้นหา เพราะว่าถ้าเกิดนทมาบ่นๆ ให้ฟัง คนก็เดินหนีหมด แต่ถ้าเกิดว่านทมีของสวยๆ มาให้ดู มีดีไซน์เก๋ๆ เขาก็อยากจะฟังเรื่องราวว่ามันเป็นมาอย่างนี้นะ นทก็จะใช้ตรงนี้ค่ะเป็นตัวขับเคลื่อนสิ่งที่นทเชื่อมั่นต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากจะ collab กับแบรนด์ต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เอา knowledge และก็เอา core value ของเราไปแบ่งปันให้เขาให้เขาเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อม ให้ความหมายกับการผลิตสินค้าของเขามากขึ้นให้มันมี carbon footprint น้อยที่สุด คือตอนนี้เราเองก็มีโปรเจกต์จะ collab กับแบรนด์หลายๆแบรนด์เลยที่ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ดัง พอเราไปทำกับเขา เราก็บอกเขาว่าถ้าเราทำด้วยกัน เราต้องใช้แค่วัสดุรีไซเคิล อัพไซเคิล หรือวัสดุธรรมชาติเท่านั้นนะ เราจะไม่ผลิตวัสดุอะไรใหม่เลย จะไม่มีการก่อเกิดขยะใหม่ๆ เขาก็โอเค นทก็รู้สึกว่าการที่เราทำอย่างเนี่ย มันก็ค่อยๆซึมซับความคิดแบบเราไปให้เขา พอเขาได้เห็นว่าทำแบบนี้ก็ได้นี่นา แล้วก็ยังได้ income เหมือนเดิม หรืออาจจะดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เขาก็จะสามารถมั่นใจและเดินมุ่งหน้าไปทางสายเขียวได้มากขึ้น”
ถ้ามีพรวิเศษ 1 ข้อ คุณจะขออะไรให้กับโลกของเรา:
“นทขอให้ทุกคนมีสติ กลับมามองเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญ ให้ทุกคนเห็นคุณค่าของธรรมชาติและเห็นคุณค่าของตัวเองน้อยลง เอาตัวเองเป็นสองและธรรมชาติเป็นที่หนึ่ง เอาความสะดวกสบายของเราเป็นที่สองและเอาธรรมชาติเป็นที่หนึ่ง เราก็จะสามารถอยู่ด้วยกันไปได้อย่างยาวนานและสวยงามได้เรื่อยๆ ค่ะ”
ฝากถึงคนรุ่นใหม่หรือคนที่กำลังสนใจของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม:
“อย่าเพิ่ง give up ช่วยกันกระจาย สื่อข้อมูลนี้ไปเรื่อยๆ นทเชื่อว่าถ้าเกิดทุกคนร่วมมือกันมันก็จะสามารถเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ตัวเล็กๆ เสียงเล็กๆของแต่ละคน แต่พอมันรวมกันมันก็ยิ่งใหญ่ ก็อยากให้ทุกคนร่วมมือกันทำต่อไปเพื่ออนาคตของมนุษยชาติ ไม่ได้เพื่อโลกเลยนะ เพราะว่ายังไงโลกก็อยู่ได้ แต่เพื่อลูกหลานเรา”
#SiamDiscovery #TheExploratorium #ComePlayWithUs
#SummerExploratorium #EarthDiscovery #NoPollutionIsTheSolution